รับเขียนบทความ รวยซะให้เข็ด!

ผมเคยถามจ้างนักเขียนหลายๆคน คำตอบที่ได้ คิวยาวมากๆ นักเขียนบางคนคิวยาวข้ามปี เขียนบทความขายดิบขายดี เล่นเอาคนจ้างหนักใจเลย หากเขียนบทความตั้งเรทราคาแบบสมเหตุสมผล ราคาพอรับได้นะ ยิ่งคิวยาว ยิ่งตั้งใจเขียน มุ่งเน้นคุณภาพ นำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เขียนแบบไม่กักความรู้ รับลองคิวยาว

ผมรับเขียนคิวยาวสุดๆแค่หนึ่งเดือน เคยถามนักเขียนหลายๆคน ทุกคนคิวยาวทั้งนั้น ทึ่งสุดๆ คือ คิวข้ามปี (นักเขียนอันหาได้ยาก) ถ้าคิวข้ามปีเมื่อไหร่ รายได้ต่อปีน่าจะถึงหลักล้าน

# เขียนบทความเพื่อขาย (คิวยาว)
# เขียนบทความเพื่อใช้เอง (ดึงโฆษณา)
# เขียนบทความเพื่อทำอีบุ๊ค (ขายได้ตลอดชาตินี้)
# เขียนบทความเพื่อทำหนังสือ (ผลงานดี สำนักพิมพ์ติดต่อมาเอง)
# เขียนบทความเพื่อต่อยอดเป็นโค้ช (คนติดตาม ร้องขอให้สอน)
# เขียนบทความเพื่อแก้ปัญหาให้คนอื่น (ใครเขียนได้ รวยซะให้เข็ด!)

ไม่ลอง ไม่รู้ ไม่ทำ ไม่เป็น อยากทำเป็น ลงมือทำ อยากมีอาชีพเสริม ทำหลายๆอย่างแบบค่อยเป็น ค่อยไป เวลาผ่านไป เราจะทึ่งในตัวเอง ทำได้ไงว่ะ!

เขียนบทความขายสินค้าให้คนอื่น พวกเราคงได้ยินคำว่า affiliate เหนื่อยครั้งเดียว ใช้บทความได้ตลอดชาตินี้

เทคนิคไม่มีอะไรมากแค่เราหาสินค้าที่เขาเปิดโอกาสให้เราทำ affiliate (นายหน้าออนไลน์) เขียนรีวิวสินค้า จากนั้นนำมาโพสต์ลงในเว็บบล็อกฟรี (blogspot ที่ผมใช้ประจำ)

ยิ่งเขียนเยอะ ยิ่งทำให้สินค้ามีโอกาสขายได้ หากมีคนซื้อเราก็ได้เปอร์เซ็นจากการขาย เนื้อหาในเว็บบล็อกเยอะขึ้น เราก็สามารถหาโฆษณามาลงได้เช่นกัน โฆษณาที่ง่ายที่สุดก็คือ affiliate เราจะได้เงินก็ต่อเมื่อมีคนซื้อสินค้า (ขึ้นอยู่กับฝีมือการเขียนของเรา)

การเขียนลงเว็บบล็อก ไม่ใช่แค่เขียนเว็บบล็อกเดียว สร้างหลายๆเว็บบล็อก เขียนเรื่อยๆสะสมเนื้อหา เว็บบล็อกของเราจะค่อยๆโตเรื่อยๆ บทความที่เราเขียนจะเริ่มติดหน้ากูเกิลมากขึ้น ตอนนี้ล่ะครับ แมวมองที่เขาจองอยู่จะติดต่อมาหาเราเพื่อลงโฆษณา เราไม่จำเป็นต้องหาโฆษณามาลง

ช่องทางรายได้แบบพื้นฐานจากการทำเว็บบล็อกฟรี
1. ขายสินค้าให้คนอื่น (affiliate) ลูกน้องของเรา คือ บทความรีวิวสินค้า มีคนซื้อสินค้าเราได้เงิน (ผมทำเยอะ เขียนเยอะ เขียนมั่วไปหมด จุดหมายหลัก คือ ขายสินค้าให้ได้)
2. ลงโฆษณาแบนเนอร์ (affiliate) มีคนซื้อสินค้าเราก็ได้เงิน (ผมทำเยอะเหมือนกัน)
3. ติด Google AdSense มีคนคลิก คนใช้บริการเราก็ได้เงิน (ผมยังไม่ทำ)
4. สร้างตัวตนของเราให้เป็นแบรนด์สินค้า เมื่อคนไว้ใจเรา เชื่อเรา คนประทับใจ ขายอะไรก็ได้เงิน (มีคนถามซื้อสินค้าจากผมเป็นประจำ แต่ผมไม่ขาย ผมไปขายข้อที่ 1 ส่วนข้อที่ 4 เอาไว้ขายตอนคู่แข่งข้อที่ 1 เยอะแล้ว เราจึงนำแบรนด์สินค้าออกมาขาย)

ใครเขียนบทความได้ ผมคิดว่า ควรรีบทำ ทำไม่เป็นก็ต้องเรียนรู้ ฝึกทำ ผมเองไม่ได้เรียนเรื่องการทำเว็บบล็อก เว็บไซต์อะไร เรียนรู้ด้วยตนเอง ลองทำดู ก็ทำมาหาเลี้ยงชีพได้นะครับ

ถามว่ารายได้ดีไหม ไม่ต่ำกว่า "หลักหมื่น"
คุ้มค่าไหมล่ะครับ เว็บบล็อกฟรี เขียนบทความด้วยตนเอง แค่นี้ก็ขายสินค้าได้แบบไม่ต้องส่งสินค้าแม้แต่ชิ้นเดียว

เดี๋ยวนี้คนที่เคยรับจ้างเขียนบทความ เริ่มหันมาเป็นแอดมิน เปิดเว็บไซต์เป็นของตนเอง เขียนบทความเอง ใช้บทความเอง หาเงินกับเว็บไซต์ ผมเริ่มสังเกตเห็นว่า คนเริ่มประกาศหานักเขียนมากขึ้น แม้แต่คนเคยรับจ้างเขียน ก็เริ่มประกาศหานักเขียนเช่นกัน บทความยังขาดตลาดจำนวนมาก แต่ก็ยังมีเพื่อนนักเขียนที่เขียนเก่ง ไม่รู้จะเอาบทความไปหารายได้อย่างไร?

ข้อแนะนำ
- เปิดเว็บไซต์เพื่อโพสต์บทความที่เราเขียนอาทิตย์ละ 3-5 บทความ
- โพสต์แบบเน้นเฉพาะด้านก็ดี แบบเน้นทั่วไปหลายด้านก็ดี
- หากมีคนเข้าเว็บไซต์เราทุกวัน นั่นคือ เงินกำลังจะมาหาเราแบบว่า เราไม่ต้องวิ่งไปหาเงิน (บทความดี มีประโยชน์ คนเข้าอ่านแน่ๆ)
- ทำเว็บไซต์โพสต์บทความใหม่ๆ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆต่อเนื่อง ไม่เกินปีหรอกครับ คุณจะรู้ว่า หาเงินในโลกออนไลน์ทุกวันนี้ ทำไมมันง่ายจังเลย
- พอเราเขียนเก่ง ข้อมูลมีเยอะขึ้น ก็ขยายตลาดเพิ่มขึ้น เปิดเว็บไซต์เพิ่มสร้างเนื้อหาใหม่ๆ เรื่อยๆ เรื่องที่เขียนมีเยอะแย่เต็มไปหมด "เขียนๆๆ โพสต์ๆๆ เงินจะตามมาทีหลัง
- ทำไปแบบนี้อีกไม่นาน "คุณจะเป็นนายตัวเอง ไม่ต้องตื่นเช้า รีบเร่งไปทำงาน เรามีเครื่องจักรทำงานให้เราแล้ว นั่น คือ เว็บไซต์ทำเงินออนไลน์

ข้อสังเกต
- ผมติดตามพฤติกรรมนักเขียนที่เก่ง (ที่ผมอ่านนะ) ถือว่าเป็นแนวหน้าเมืองไทยก็ว่าได้ พฤติกรรมการเขียนของเขาเปลี่ยนไป เมื่อไม่นานมานี้เอง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เขาเริ่มตั้งราคาบทความแพงขึ้น แพงกว่าราคาตลาดทั่วไป เพื่อเขาจะได้มีเวลาว่าง ผลิตงานเขียนเพื่อใช้ในเว็บไซต์ของตนเอง ทำไม?
- เว็บไซต์ทำเงินได้มากกว่ารับจ้างเขียนบทความ ในเมื่อมีทักษะการเขียนอยู่แล้ว "เขียนเองใช้เอง" ดีที่สุด แต่ถ้าใครยังมองไม่เห็นช่องทางหรือโอกาสก็ต้องรับจ้างเขียนต่อไป เป็นการฝึกๆๆเขียนๆๆ เพื่อปรับเปลี่ยนตนเองในเป็น "นายตนเอง" ไม่ต้องแบกสังขารไปทำงานให้คนอื่นรวย

สุดท้าย
- เพื่อนที่ยังไม่มีเว็บไซต์ลองเปิดเว็บไซต์เป็นของตนเอง และเขียนบทความลงเว็บไซต์ครับ แล้วเพื่อนๆจะรู้ว่า "เงินวิ่งมาหาเราได้อย่างไร?"
- และอีกอย่างนะครับ สำคัญและได้ผลมาก คือ การแบ่งปันสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ มันจะได้มิตรภาพที่ดีมากๆ เป็นช่องทางมาของเงินได้เช่นกัน

ทำไมผมพูดเรื่องนี้
- ผมไม่ได้ทำงานในระบบ ผมหาเงินด้วยวิธีเขียน blog ผมมีอิสระที่จะทำกิจกรรมอะไรก็ได้ในแต่ละวัน ผมไม่ได้ไปนั่งทำงานในห้องแคบๆ การทำงานของผม เลือกสถานที่ได้ มีแค่โน๊ตบุ๊คไว้เขียนๆๆบทความ เพื่อนำมาโพสต์ลงในเว็บไซต์ เว็บบล็อก 
บางทีขี้เกียจเขียน ก็จ้างนักเขียนอิสระ เขียนให้ผมซึ่งก็มีนักเขียนประจำที่รับเขียนให้ทั้งเขียนใหม่สดและเขียนรีไรท์
- นักเขียนบางคนบีบคอผมเลยก็ว่าได้ เอาบทความไปขายให้หน่อยว่างั้น ขายได้ค่อยจ่ายเงิน ส่งมาให้เยอะมาก ผมงง!
- จากหาเงินแบบอิสระ เริ่มไม่มีอิสระแล้วครับ เหมือนมีความรับผิดชอบขึ้น คือ ทำอย่างไรให้ขายบทความได้
- ผมคิดออกอย่างเดียว เปิดเว็บ โพสต์บทความ เสมือนเปิดโรงงานออนไลน์ ผลิตเงินให้เรา แต่ข้อมูลนั้นควรจะเป็นเฉพาะทางเจาะลึกในเรื่องนั้นๆไป คนหาอ่านที่ไหนไม่ได้แล้ว นอกจากเว็บไซต์เรา นั่นแหละครับ "เงินจะมาหาเรา"

สุดท้ายจริงๆ
ทุกวันนี้ ผมไม่ได้ทำอะไร นอกจากอ่านหนังสือ หาความรู้ อยากจะเขียนก็เขียน เขียนเสร็จนำมาโพสต์เว็บไซต์ สร้างโรงงานขนาดใหญ่ไว้สำหรับทำงานแทนเราในอนาคต "ทำได้จริงครับ ผมทำมาแล้วได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ"

เล่าสู่กันฟัง แรกๆผมทำเว็บบล็อกฟรี ไม่คิดอะไรเลย ไม่คิดว่าจะมีรายได้จากช่องทางไหน ไม่รู้เลย ทำเว็บบล็อกเล่นๆ ไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไร ทำมั่วๆ อ่านไม่รู้เรื่อง บางทีก็ตั้งชื่อเรื่องไว้เฉยๆ ไม่มีเนื้อหาอะไร ทำแบบนี้มาหลายปีมาก น่าจะมากกว่า 5 ปีล่ะมั้งครับ แค่คิดอยากจะทำก็ทำไป ฝึกทำ ทำเล่นๆ ไม่คิดไรมากมายให้ปวดหัว

ขณะที่ทำเว็บบล็อกฟรี ผมก็อ่านหาความรู้ไปด้วย คือ อ่านไม่จริงจังอะไร อ่านเล่นๆ อ่านเรื่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย จนกระทั่งช่วงเดือนมกราคม ปี 59 เริ่มเอ๊ะใจ อ่านมาก็เยอะแล้ว ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า การทำบล็อกฟรีสามารถหาเงินออนไลน์ได้ ทำไมเราไม่ทำอย่างจริงจังซะที ทำเล่นๆอยู่ได้ (ทุกวันนี้ยังติดนิสัยทำเล่นๆไปเรื่อย)

ก็เลยลองเขียนเว็บบล็อกมั่วๆสไตล์ของผมนี้แหละ ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรเลย อยู่มาวันนี้ มีคนติดต่อเข้ามาให้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับบทความการพนันออนไลน์ ไม่มีความรู้เลยครับ แต่รับปากว่าจะเขียน ก็เขียนส่งเขา พอส่งไปได้ไม่นานทีนี้ มาเป็น 100 บทความ (เขาให้รีไรท์) พอรีไรท์เสร็จมาอีกเป็น 100 บทความ (แทบอ้วก) ทำไม่หยุด และยังมีติดต่อเขามาอีก ให้ผมเขียนบทความ 100 บทความต่อเดือน
ทำให้ผมเอ๊ะใจ เทรนด์ใหม่กำลังมาแน่ๆ "เทรนด์การทำคอนเทนต์"

ทำให้ผมรีบตัดสินใจทำเอง ปฏิเสธงานทั้งหมด เขียนบทความเอง ใช้บทความเอง ทำเว็บไซต์เอง ใช้เว็บไซต์เป็นโรงงาน ใช้เว็บไซต์เป็นบริษัท ปรากฎว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

เพื่อนๆลองสังเกตนะครับ หากเว็บไซต์ใดรับจ้างเขียนบทความที่มีราคาแพงกว่าราคาตลาดทั่วไป นั่นคือ เขากำลังเขียนบทความเพื่อใช้เอง ไม่ได้มีเจตนาเขียนบทความขาย เขาตั้งราคาบทความแพงๆ เพื่อจะได้มีเวลาเขียนบทความใช้เอง

แต่ก็มีคนติดต่อเข้ามาให้เขียนบทความ ซึ่งทำให้เขารับเขียนเพราะบทความราคาแพง เขียนไม่ถึง 10 บท ได้เงินมากกว่า 1,000 บาท

"เทรนด์การทำคอนเทนต์" มาแรงซึ่งใครสามารถเขียนได้ จะมีความได้เปรียบในการหาเงินออนไลน์ "ต้นทุนต่ำ"

ส่วนวิธีการหาเงินนั้น แรกๆ ยังไม่ต้องคิด ทำเนื้อหา โพสต์ลงเว็บไซต์ไปก่อน ทำไปเรื่อยๆ ที่สำคัญเราต้องรู้ให้ได้ว่า ในแต่ละวันคนเข้าเว็บไซต์เรากี่คน ต่อเดือนกี่คน

อย่างเว็บบล็อกฟรีที่ผมทำ ยังมีคนติดต่อเข้ามาขอลงโฆษณาเลย ขนาดเขียนมั่วสุดนะ อ่านไม่รู้เรื่อง ในโลกออนไลน์จะมีแมวมองเหมือนกันครับ เหมือนเขาจะค่อยดูพัฒนาในแต่ละเว็บ เมื่อเขามองเห็นว่า หากลงโฆษณาไปแล้วมีโอกาสที่จะได้ขายสินค้าเพิ่มขึ้น เขาก็ต้องมาขอลงโฆษณากับเรา

เมื่อเราเขียนบทความ โพสต์ลงในเว็บไซต์ของเราเอง พอเว็บไซต์ของเราเริ่มติดหน้า google วันนั้นแหละ เราจะขายอะไรก็ได้ ขายได้หมด "ปัญหา คือ เราจะขายอะไร"

การทำแฟนเพจเหมือนกัน โพสต์เนื้อหาความรู้ลงเรื่อยๆ ไม่นานหรอกครับ ช่องทางทำเงินจะปรากฎแก่เรา ผมก็ทำนะแฟนเพจ โพสต์ไปเรื่อยๆ มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง คุยทาง inbox กับเพื่อนๆที่เข้ามาทักบ้าง ทำเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งมีคนถามซื้อสินค้า คำถามเดิม "ปัญหา คือ เราจะขายอะไร"

ผมว่ามันเป็นศาสตร์การขายที่ยอดเยี่ยม ไม่ได้มีเจตนาจะขายอะไรเลย แต่มีคนถามซื้อสินค้า น่าคิดครับ
- อะไรเป็นเหตุให้เขาถามซื้อสินค้าจากเรา
- ทำไมเขาต้องการซื้อสินค้าจากเรา
- แล้วเราล่ะ จะเอาสินค้าอะไรมาขายให้เขา คิดๆๆๆ!

ผมโดนถามเยอะมาก แต่ผมปฏิเสธไปหมด "ผมไม่มีอะไรจะขาย" ผมแค่แบ่งปันความรู้แค่นี้จริงๆ ไม่น่าเชื่อครับ ยิ่งบอกแบบนี้ยิ่งถามเยอะกว่าเดิมอีก ทำให้เกิดความไว้ใจล่ะมั้งครับ พอเขามีอะไรสงสัยในเรื่องใด จะแวะมาถามผม ผมก็ตอบตามที่รู้ ก็ทำแบบนี้ไป ก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ยกตัวอย่างคำถามที่น่าประทับใจ ผมนึกถึงคำถามนี้ทุกครั้ง รู้สึกยิ้มสบายใจ
"พี่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยซื้อไหมครับ อยากให้ผมซื้ออะไรบอกผมได้นะครับ"
"ขอบคุณค่ะพี่ ที่ช่วยแนะนำ มีอะไรไม่เข้าใจจะกลับมาขอคำแนะนำใหม่"
และมีอีกคำถามหนึ่งเด็ดมากๆ "น้องคิดว่าไง ถ้าน้อง OK พี่เอาด้วย" 

จากข้อสังเกตของผมนะครับ การให้ข้อมูลด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีความจริงใจ ทำแบบไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ยิ่งทำให้ช่องทางทำเงินมีมากขึ้นแบบเราไม่คาดคิด "แปลกมากๆ" นี้คือสิ่งที่ผมค้นพบ

หรือนี้อาจจะเป็นศาสตร์แห่งการขายรูปแบบหนึ่ง เพื่อนๆลองเอาไปทำดูครับ "ต้นทุนต่ำมากๆ ไม่เสียหายอะไร"

สุดท้าย คำถาม คือ เมื่อเราทำเว็บไซต์ เขียนบทความได้แล้ว มีคนอ่านแล้ว มีคนติดตามแล้ว "เราจะขายอะไร"

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง https://www.facebook.com/groups/552920778078345/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น